คู่มือโภชนาการสำหรับผู้ป่วยติดเตียง: การเตรียมอาหารและการให้อาหารทางสายยาง | ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านแสนรัก

คู่มือโภชนาการสำหรับผู้ป่วยติดเตียง: การเตรียมอาหารและการให้อาหารทางสายยาง | ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านแสนรัก

การดูแลโภชนาการผู้ป่วยติดเตียง: การเตรียมอาหารและการให้อาหารทางสายยางอย่างปลอดภัย

สำหรับครอบครัวที่มี ผู้ป่วยติดเตียง หรือ ผู้สูงอายุ ที่มีภาวะกลืนลำบาก (Dysphagia) การได้รับสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูและคุณภาพชีวิต การรับประทานอาหารเองตามปกติอาจเป็นไปไม่ได้ ทำให้จำเป็นต้องพึ่งพา การให้อาหารทางสายยาง (Tube Feeding) ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้ ความละเอียดรอบคอบ และเทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับโภชนาการครบถ้วนและปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ การทำความเข้าใจวิธีการ เตรียมอาหารปั่น ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงขั้นตอนที่ถูกสุขลักษณะในการให้อาหารทางสายยาง จึงเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ดูแล

โภชนาการของผู้ป่วยติดเตียงมีความสำคัญมากกว่าคนปกติ เพราะร่างกายอยู่ในภาวะต้องการพลังงานเพื่อซ่อมแซมและป้องกันการเกิด แผลกดทับ รวมถึงรักษาสมดุลของระบบต่างๆ ในร่างกาย

อาหารสูตรครบถ้วน: ทางเลือกที่แพทย์แนะนำ

สูตรอาหารสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับอาหารทางสายยางแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ:

  • อาหารสูตรสำเร็จรูปทางการแพทย์ (Commercial Formulas): มีทั้งชนิดผงและของเหลว มีสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการพื้นฐานของผู้ป่วย มีความสะดวกในการใช้งาน และควบคุมปริมาณสารอาหารได้ง่าย
  • อาหารสูตรน้ำนมผสม (Milk-based Formulas): เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม แต่สำหรับผู้สูงอายุบางรายที่ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย
  • อาหารสูตรปั่นผสม (Blenderized Formulas): เป็นอาหารที่ทำขึ้นเองจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ผัก ผลไม้ และข้าว ปั่นรวมกันให้มีความละเอียดและมีความหนืดที่เหมาะสม ข้อดี คือสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบให้สอดคล้องกับโรคประจำตัว หรือความชอบของผู้ป่วยได้ ข้อเสีย คือต้องอาศัยความพิถีพิถันในการเตรียมเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและถูกสุขอนามัย

ความหนืดและความละเอียด: กุญแจสำคัญของอาหารปั่น

หากเลือกใช้ อาหารปั่นผสม ผู้ดูแลต้องมั่นใจว่าอาหารนั้นมีความเหลวที่เหมาะสม (Liquid consistency) คือสามารถไหลผ่านสายยางขนาดเล็กได้โดยไม่เกิดการอุดตัน และต้อง ปั่นให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ และควรมีการ กรอง หากพบกากใยหยาบ การเลือกใช้ผักใบมากกว่าผักที่มีก้านแข็งจะช่วยลดความเสี่ยงของการอุดตัน

ขั้นตอนการเตรียมอาหารปั่นอย่างถูกหลักโภชนาการ

การเตรียมอาหารปั่นที่ดีไม่ใช่แค่การนำทุกอย่างมาปั่นรวมกัน แต่คือการคำนวณและปรับสัดส่วนสารอาหารให้เหมาะสม โดยทั่วไปสัดส่วนพลังงานหลัก ควรอยู่ที่ คาร์โบไฮเดรต : โปรตีน : ไขมัน = 50:20:30 (ปรับเปลี่ยนได้ตามคำแนะนำของนักโภชนาการ)

การเลือกวัตถุดิบและการฆ่าเชื้อ

  1. โปรตีน: ควรใช้เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น อกไก่ หรือปลา ที่นำไปต้มจนเปื่อยนุ่ม
  2. คาร์โบไฮเดรต: ใช้ข้าวสวย ข้าวโอ๊ต หรือธัญพืชอื่นๆ ที่หุงสุกแล้ว
  3. ไขมัน: เติมน้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันมะกอก ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มพลังงานและกรดไขมันจำเป็น
  4. ผักและผลไม้: เลือกใช้ผักใบอ่อน หรือผลไม้ที่ให้พลังงานและวิตามิน เช่น ฟักทอง กล้วยน้ำว้า (ควรต้มหรือนึ่งจนเปื่อยก็นำมาปั่น)
  5. ความเหลว: ใช้น้ำต้มสุก หรือน้ำซุปผัก เพื่อปรับความเหลวให้เหมาะสมกับอัตราส่วนที่กำหนด (เช่น สูตร 1:1 คือ 1 แคลอรีต่อ 1 มิลลิลิตร)

การเก็บรักษาและการอุ่นอาหารที่ปลอดภัย

  • การเก็บรักษา: อาหารปั่นที่ปรุงเสร็จแล้วควรปล่อยให้เย็นลงก่อน แบ่งใส่ภาชนะที่ปิดสนิท และ เก็บในตู้เย็นโซนด้านใน ที่มีอุณหภูมิคงที่ ไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส สามารถเก็บไว้ได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาคุณภาพและป้องกันการเติบโตของเชื้อโรค
  • การอุ่นอาหาร: ควรใช้วิธี อุ่นด้วยการแช่ในน้ำร้อน (Bain-marie) ไม่ควรใช้เตาไมโครเวฟ เพราะความร้อนอาจไม่สม่ำเสมอ และก่อนให้อาหารทุกครั้ง ควรทดสอบอุณหภูมิ โดยหยดลงบนหลังมือ ให้รู้สึกว่า “อุ่น” ไม่ใช่ “ร้อนจัด”

เทคนิคการให้อาหารทางสายยางอย่างละเอียดและปลอดภัย

การให้อาหารทางสายยางต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและถูกขั้นตอน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น การสำลักอาหารเข้าสู่ปอด

จัดท่าทางและตรวจเช็กความพร้อม

  1. จัดท่า: ให้ผู้ป่วยอยู่ใน ท่าศีรษะสูง 30-45 องศา หรือท่านั่งพิงพนักเตียง และคงท่านี้นาน อย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังให้อาหาร เพื่อป้องกันภาวะไหลย้อนกลับและสำลัก
  2. ล้างมือ: ผู้ดูแลต้อง ล้างมือให้สะอาด ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลก่อนเริ่มกระบวนการ
  3. ตรวจสอบตำแหน่งสาย: ตรวจเช็กว่า สายยางอยู่ในตำแหน่งเดิม ที่ขีดทำเครื่องหมายไว้ที่จมูก และ ทดสอบปริมาณอาหารคงค้างในกระเพาะ ก่อนให้อาหารทุกมื้อ (โดยการดูดอาหารออกมา หากปริมาณน้อยกว่า 50-100 มล. สามารถให้อาหารต่อได้ แต่ถ้ามากกว่านั้น ควรรอดูอาการและปรึกษาแพทย์)

ขั้นตอนการป้อนอาหารที่ถูกต้อง (Bolus Method)

  1. เตรียมอุปกรณ์: ต่อกระบอกให้อาหาร (Syringe Barrel) หรือถุงให้อาหารเข้ากับปลายสายยาง
  2. ให้อาหารช้าๆ: ค่อยๆ เทอาหารลงในกระบอก/ถุง โดย ยกกระบอกให้สูงกว่าตัวผู้ป่วยประมาณ 30-45 เซนติเมตร และปล่อยให้ อาหารไหลลงช้าๆ ตามแรงโน้มถ่วง ห้ามดันอาหารเร็วเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียได้
  3. ให้น้ำล้างสาย: เมื่ออาหารเกือบหมด (ก่อนกระบอกจะว่าง) ให้รีบเติม น้ำต้มสุกอุ่น (ตามปริมาณที่แพทย์/พยาบาลกำหนด ส่วนใหญ่ประมาณ 30-50 มล.) ตามลงไปทันทีเพื่อ ล้างสายยางให้สะอาด และ ป้องกันการอุดตัน
  4. ปิดสาย: เมื่อน้ำหมด ให้ พับสายยาง ก่อนปลดกระบอก/ถุงออก เพื่อป้องกันอากาศเข้าสู่กระเพาะอาหาร แล้วเช็ดทำความสะอาดปลายสายและปิดจุกยางให้เรียบร้อย

ข้อควรระวังและภาวะแทรกซ้อนที่ต้องสังเกต

  • การสำลัก (Aspiration): หากผู้ป่วยมีอาการ ไอ สำลัก หายใจลำบาก หรือมีสีหน้าเปลี่ยนไป ให้ หยุดให้อาหารทันทีจัดให้ผู้ป่วยนอนตะแคง และรีบดูดเสมหะหรืออาหารที่สำลักออกมา แล้วปรึกษาแพทย์
  • ท้องอืด/คลื่นไส้: อาจเกิดจากการให้อาหารเร็วเกินไป อาหารเย็นเกินไป หรืออาหารคงค้างในกระเพาะมากเกินไป ควรลดอัตราการไหล หรือปรึกษาแพทย์เพื่อปรับปริมาณอาหาร
  • ท้องเสีย/ท้องผูก: ปัญหาเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับชนิดของอาหาร หรือสุขลักษณะในการเตรียมและการเก็บรักษา ต้องประเมินและปรับสูตรอาหารร่วมกับนักโภชนาการ

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ: ผู้ช่วยมืออาชีพในการดูแลโภชนาการที่ซับซ้อน

การดูแล ผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องได้รับ อาหารทางสายยาง ที่บ้านนั้นเป็นภาระที่หนักหน่วงและมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย การขาดความรู้ความชำนาญเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วยได้ การเลือกใช้บริการ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ที่มีความเชี่ยวชาญจึงเป็นทางออกที่ปลอดภัยและดีที่สุด

โภชนาการเฉพาะบุคคลและการควบคุมคุณภาพ

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ที่ได้มาตรฐานจะมี นักโภชนาการ คอยดูแลและจัดทำ สูตรอาหารเฉพาะบุคคล ที่เหมาะสมกับโรคประจำตัว (เช่น โรคเบาหวาน โรคไต) และความต้องการพลังงานของผู้ป่วยแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นอาหารปั่นผสมหรืออาหารสูตรสำเร็จทางการแพทย์ ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การปรุง ไปจนถึงการฆ่าเชื้อและจัดเก็บจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานทางการแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด

การปฏิบัติการโดยทีมพยาบาลวิชาชีพ

การ ให้อาหารทางสายยาง ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จะดำเนินการโดย พยาบาลวิชาชีพ และผู้ดูแลที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี พวกเขาจะสามารถตรวจสอบตำแหน่งของสายยางได้อย่างถูกต้อง ประเมินภาวะอาหารคงค้างได้อย่างแม่นยำ และที่สำคัญที่สุดคือสามารถจัดการกับภาวะแทรกซ้อน เช่น การสำลัก ได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปตามหลักการแพทย์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านแสนรัก เราให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลโภชนาการของผู้ป่วยติดเตียง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องได้รับ อาหารทางสายยาง เรามีทีมพยาบาลวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการ ให้อาหารทางสายยาง ตามหลักการแพทย์อย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดท่าผู้ป่วย การตรวจสอบตำแหน่งสายยาง ไปจนถึงการสังเกตอาการหลังให้อาหาร ทำให้คุณวางใจได้ในความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ เรายังมี นักโภชนาการเฉพาะทาง ที่ทำงานร่วมกับแพทย์เพื่อออกแบบ สูตรอาหารปั่นเฉพาะบุคคล ที่มีสารอาหารครบถ้วนเหมาะสมกับสภาวะสุขภาพและโรคประจำตัวของผู้สูงอายุแต่ละท่าน โดยเน้นการใช้วัตถุดิบสดใหม่และถูกสุขอนามัยในทุกมื้ออาหาร เราไม่ได้เพียงแค่ป้อนอาหาร แต่เรากำลังมอบพลังงานและโภชนาการที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูร่างกายอย่างละเอียดอ่อน พร้อมทั้งเฝ้าระวังและจัดการกับภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินอาหารอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ 

การเลือก บ้านแสนรัก คือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดในการมอบการดูแลโภชนาการที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์สูงสุดให้กับคนที่คุณรัก เพื่อให้พวกเขามีพลังในการต่อสู้กับโรคและมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้การดูแลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้าใจและเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของชีวิตประจำวัน

"ให้บ้านแสนรัก ดูแลคนที่คุณห่วงใย ด้วยหัวใจที่อบอุ่น"

Share