แผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง: สาเหตุ อาการ การรักษาและป้องกัน | บ้านแสนรัก

แผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง สาเหตุ อาการ และการรักษา ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง บ้านแสนรัก

หนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่สร้างความเจ็บปวดและเป็นปัญหาใหญ่หลวงที่สุดในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง คือ “แผลกดทับ” (Pressure Ulcer หรือ Bed Sore) ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงบาดแผลธรรมดาบนผิวหนัง แต่เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกถึงการตายของเนื้อเยื่อจากการขาดเลือดไปเลี้ยง และหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาจลุกลามลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อและกระดูก นำไปสู่การติดเชื้อในกระแสเลือดและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง แผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง ตั้งแต่สาเหตุเริ่มต้น อาการในแต่ละระยะ ไปจนถึงแนวทางการรักษาและป้องกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดที่ผู้ดูแลทุกคนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อปกป้องบุคคลอันเป็นที่รักให้ห่างไกลจากความทุกข์ทรมานนี้

เจาะลึกสาเหตุหลักของการเกิดแผลกดทับ

แผลกดทับไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้สาเหตุ แต่มีปัจจัยหลักที่ส่งเสริมให้เกิดการบาดเจ็บต่อผิวหนังและเนื้อเยื่อชั้นลึกอย่างต่อเนื่อง การเข้าใจต้นตอของปัญหาจะช่วยให้เราสามารถป้องกันได้อย่างตรงจุด

แรงกดทับ (Pressure)

นี่คือสาเหตุที่สำคัญที่สุดและเป็นที่มาของชื่อ “แผลกดทับ” เมื่อร่างกายของผู้ป่วยอยู่ในท่านอนหรือท่านั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน น้ำหนักตัวจะกดลงบนผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณปุ่มกระดูกต่างๆ เช่น ส้นเท้า, ตาตุ่ม, ข้อศอก, สะโพก, กระดูกก้นกบ และท้ายทอย แรงกดนี้จะบีบเส้นเลือดฝอย ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณนั้นได้ตามปกติ เมื่อเซลล์ขาดออกซิเจนและสารอาหารเป็นเวลานาน ก็จะเริ่มเกิดการบาดเจ็บและตายในที่สุด

แรงเสียดสี (Friction) และแรงเฉือน (Shear)

แรงเสียดสี เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังของผู้ป่วยถูกับพื้นผิวของเตียงหรือเสื้อผ้า เช่น การลากหรือดึงตัวผู้ป่วยเพื่อขยับตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้ผิวหนังชั้นนอกถลอกและอ่อนแอลง ส่วน แรงเฉือน เป็นภาวะที่อันตรายกว่า เกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน (เช่น การปรับหัวเตียงสูง) ทำให้ร่างกายไถลลง ในขณะที่ผิวหนังบริเวณหลังและก้นยังคงยึดติดอยู่กับผ้าปูที่นอน แรงที่กระทำสวนทางกันนี้จะดึงรั้งและทำลายเนื้อเยื่อและหลอดเลือดใต้ผิวหนัง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับในชั้นลึกได้ง่ายขึ้น

ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ต้องเฝ้าระวัง

นอกเหนือจากแรงกดโดยตรง ยังมีปัจจัยร่วมอื่นๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงมีความเสี่ยงสูงขึ้น ได้แก่:

  • ภาวะขาดสารอาหาร: การได้รับโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุไม่เพียงพอ ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลง
  • ความเปียกชื้น: ผิวหนังที่สัมผัสกับปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเวลานาน จะเปื่อยยุ่ยและอ่อนแอลง ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย
  • อายุที่มากขึ้น: ผู้สูงอายุมีผิวหนังที่บอบบางและชั้นไขมันใต้ผิวหนังลดลง ทำให้ความสามารถในการทนต่อแรงกดต่ำลง
  • โรคประจำตัว: โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด หรือภาวะที่การไหลเวียนเลือดไม่ดี จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้สูงขึ้น

สัญญาณเตือนและอาการของแผลกดทับใน 4 ระยะ

การประเมินความรุนแรงของแผลกดทับได้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1: ผิวหนังยังไม่ฉีกขาด แต่เริ่มมีรอยแดง

ในระยะเริ่มต้น จะสังเกตเห็นรอยแดงบนผิวหนังบริเวณที่ถูกกดทับ เมื่อลองใช้นิ้วกดลงไปบนรอยแดงนั้นแล้วปล่อย สีแดงจะไม่จางหายไป (Non-blanchable erythema) บ่งบอกว่าการไหลเวียนเลือดเริ่มมีความผิดปกติ ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บปวด หรือผิวบริเวณนั้นอาจอุ่นกว่าหรือแข็งกว่าผิวโดยรอบ ระยะนี้คือสัญญาณเตือนที่สำคัญที่สุด หากได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที เช่น การลดแรงกดทับ ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้แผลลุกลามได้

ระยะที่ 2: แผลเปิดตื้นๆ หรือมีตุ่มน้ำพอง

ผิวหนังชั้นบนเริ่มเสียหาย เกิดเป็นแผลเปิดตื้นๆ ลักษณะคล้ายแผลถลอก หรืออาจเห็นเป็นตุ่มน้ำพองใสซึ่งมีของเหลวอยู่ภายใน แผลในระยะนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้ผู้ป่วยอย่างมาก และเริ่มมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ระยะที่ 3: แผลลึกถึงชั้นไขมัน

แผลมีการทำลายลึกลงไปผ่านผิวหนังชั้นนอกและชั้นหนังแท้ จนมองเห็นชั้นไขมันใต้ผิวหนัง แผลจะมีลักษณะเป็นหลุมหรือโพรง แต่ยังไม่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ เอ็น หรือกระดูก เป็นระยะที่รุนแรงและต้องอาศัยการดูแลรักษาที่ซับซ้อนขึ้น

ระยะที่ 4: แผลลุกลามถึงกล้ามเนื้อและกระดูก

เป็นระยะที่รุนแรงที่สุด แผลมีการทำลายเนื้อเยื่ออย่างกว้างขวางและลึกลงไปจนมองเห็นกล้ามเนื้อ เอ็น หรือกระดูกได้อย่างชัดเจน มักจะมีเนื้อตายสีดำหรือสีเหลืองปกคลุมอยู่ มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการติดเชื้อลุกลามเข้าสู่กระดูก (Osteomyelitis) และกระแสเลือด (Sepsis) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

แนวทางการรักษาและการดูแลแผลกดทับ

การดูแลความสะอาดให้ผู้ป่วยติดเตียงอาจดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะคือการมอบสุขภาพที่ดีและความสุขสบายให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก อย่างไรก็ตาม ภาระหน้าที่นี้อาจหนักเกินไปสำหรับผู้ดูแลคนเดียวหรือครอบครัวที่ไม่มีเวลาเพียงพอ

บริการดูแลผู้ป่วยติดเตียงคุณภาพสูงจากศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง บ้านแสนรัก
  • หลักการสำคัญที่สุดในการรักษาแผลกดทับคือ “การกำจัดแรงกดทับ” ร่วมกับการดูแลบาดแผลที่เหมาะสมตามระยะความรุนแรง

    1. การลดแรงกดทับ: เป็นหัวใจของการรักษาและป้องกัน ต้องจัดให้มีการพลิกตะแคงตัวผู้ป่วยอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง และใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยกระจายแรงกด เช่น ที่นอนลม เตียงลม หรือเบาะรองนั่งชนิดพิเศษ
    2. การทำความสะอาดแผล: แผลกดทับทุกระยะต้องได้รับการทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือปราศจากเชื้อ (Normal Saline) ทุกวัน เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและลดโอกาสการติดเชื้อ
    3. การดูแลแผลตามระยะ:
      • ระยะที่ 1: ลดแรงกดทับและรักษาความสะอาดของผิวหนัง อาจใช้ฟิล์มใสปิดทับเพื่อป้องกันการเสียดสี
      • ระยะที่ 2: ทำความสะอาดแผลและใช้วัสดุปิดแผลที่เหมาะสม เช่น กลุ่มไฮโดรคอลลอยด์ (Hydrocolloid) เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและส่งเสริมการหายของแผล
      • ระยะที่ 3-4: เป็นแผลที่ซับซ้อน ต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ อาจจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อตายออก (Debridement) และใช้วัสดุปิดแผลชนิดพิเศษที่สามารถดูดซับของเหลวและส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้
    4. การให้สารอาหารที่เพียงพอ: เน้นอาหารกลุ่มโปรตีนสูง วิตามินซี และสังกะสี เพื่อช่วยในกระบวนการซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่

    การดูแลผู้ป่วยที่มีแผลกดทับต้องอาศัยทั้งความรู้ ความอดทน และเวลา ซึ่งอาจเป็นภาระที่หนักหนาสำหรับครอบครัว การมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างความมั่นใจและผลลัพธ์การรักษาที่ดีกว่า

    ที่ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงบ้านแสนรัก เราให้ความสำคัญสูงสุดกับการป้องกันและรักษาแผลกดทับ เพราะเราเข้าใจดีว่าสิ่งนี้คือคุณภาพชีวิตและความสุขสบายของผู้ป่วย ทีมงานพยาบาลและนักกายภาพบำบัดผู้มีประสบการณ์ของเราได้จัดทำโปรแกรมการดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่มุ่งเน้นการพลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมงอย่างเคร่งครัด การเลือกใช้อุปกรณ์ลดแรงกดทับที่ทันสมัยและเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย พร้อมทั้งการเฝ้าระวังและประเมินสภาพผิวหนังอย่างใกล้ชิดทุกวัน ในกรณีที่เกิดแผลขึ้น เรามีทีมพยาบาลวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลและทำแผลกดทับตามมาตรฐานการรักษา เพื่อควบคุมการติดเชื้อและส่งเสริมให้แผลหายเร็วที่สุด ควบคู่ไปกับการดูแลด้านโภชนาการที่เหมาะสม ให้ท่านวางใจได้ว่าคนที่ท่านรักจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย สะอาด และได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

"ให้บ้านแสนรัก ดูแลคนที่คุณห่วงใย ด้วยหัวใจที่อบอุ่น"

Share

    Leave a comment

    Your email address will not be published. Required fields are marked *