ผู้สูงวัยบางท่านที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีปัญหาเรื่องการนอนติดเตียงมักจะมีปัญหาขาดสารอาหารจน ร่างกายซูบผอมลง จนเกิดมีปุ่มกระดูกชัด รวมถึงอาจจะมีปัญหาด้านผิวหนังที่แห้ง หย่อนยาน ขาดความชุ่มชื้นและมีภาวะโรคร่วมอย่างอื่นที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดแผลกดทับ หรือ แผลที่เกิดจากการเสียดสีได้ เช่น ภาวะเบาหวานที่เป็นภัยร้าย แผลอักเสบติดเชื้อง่าย ภาวะเส้นเลือดที่ปลายแขนขาที่ไม่ดี รวมถึงปัจจัยความชื้นของอากาศและวัสดุ ที่ไม่เหมาะสม พื้นผิวแข็งมีเสี่ยงต่อการเสียดสีมาก ก็จะเป็นปัญหาได้เช่นกัน
วันนี้เรามี 5 วิธีป้องกันการเกิดแผลกดทับมาฝากกันครับ
1. การเปลี่ยนและการจัดท่าของผู้ป่วย
การเปลี่ยนและการจัดท่าของผู้ป่วย โดยยึดเอาตามความสามารถในการขยับ และการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยเป็นหลัก หากผู้ป่วยนอนติดเตียงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยควรเปลี่ยนท่านอนใหม่ทุก ๆ 2 ชั่วโมง อาจจะเป็นถ้านอนหงายแล้วนอนตะแคงโดยอาจใช้หมอนข้างนิ่ม ๆ มากั้น รวมถึงใช้หมอนนิ่ม ๆ ใบเล็กแทรกอยู่ตามระหว่างปุ่มกระดูกที่อาจกดทับกันจนเป็นแผลได้ หากผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แต่สามารถนั่งบนรถเข็นควรจะเปลี่ยนท่านั่งใหม่ทุก ๆ 1 ชั่วโมง ระหว่างอาบน้ำเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าอ้อม ควรหมั่นสังเกตสีผิวที่เปลี่ยนแปลง หากเริ่มแดง คล้ำ ควรหมั่นพลิกตัวเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ
2. ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับมาก
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับมาก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือตัวเองได้น้อย มีภาวะโรคประจำตัว ขาดสารอาหาร รวมถึงมีปุ่มกระดูกขนาดใหญ่ที่ตำแหน่งกดทับ สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงกดทับเสริมได้ เช่น หมอนนุ่มๆ ที่จะช่วยลดแรงกดทับได้ เตียงลมที่ได้มาตรฐาน หรือเจลรองตำแหน่งกดทับ เป็นต้น
3. การป้องกันภาวะผิวหนังที่แห้งหรืออับชื้นมากจนเกินไป
การป้องกันภาวะผิวหนังที่แห้งหรืออับชื้นมากจนเกินไป ในกรณีผู้ป่วยไม่สามารถกลั้นปัสสาวะอุจจาระได้ แต่หากยังช่วยเหลือตัวเองได้ควรจัดตารางการเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใช้อยู่ให้สะอาดเป็นประจำ รวมถึงอาจใช้ยา ครีมทาเคลือบผิว เพื่อลดอาการระคายเคือง หลังจากขับถ่าย เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ทาผิวหลังอาบน้ำ และหลังทำความสะอาด รวมถึงเวลาที่พบผิวแห้ง และควรหมั่นสังเกตหากผู้สูงวัยมีอาการคันมากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่นแผลเบาหวาน ผื่นแพ้ผ้าอ้อม แพ้เทปปิดผิวหนัง หากเกามาก ๆ ไปนาน ๆ จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อันตรายมาก ๆ ครับ
4. การดูแลด้านโภชนาการให้ผู้สูงวัยได้รับอย่างครบถ้วน
การดูแลด้านโภชนาการให้ผู้สูงวัยได้รับอย่างครบถ้วน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่ได้รับอาหารผ่านทางสายยาง รวมถึงผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ การคำนวณปริมาณการรับสารอาหารหลัก ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันชนิดดี ไขมันอิ่มตัว และชนิดทรานส์ ผักผลไม้ที่มีกากใยสูง และการให้สารอาหารหรือวิตามินเสริมในสัดส่วนที่พอเหมาะ ในรายที่เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร เสริมในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละรายก็เป็นสิ่งจำเป็น หากภาวะโภชนาการดี ก็จะทำให้โอกาสการเกิดแผลน้อยลง แม้ว่าจะเป็นแผลก็ฟื้นตัวได้ไวครับ
5. หมั่นสอดส่องความผิดปกติที่เกิดขึ้น
หมั่นสอดส่องความผิดปกติที่เกิดขึ้น กับผิวหนังบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผล เช่น ตำแหน่งที่มีการกดทับ ตำแหน่งที่มีการเสียดสีบ่อย ๆ ปุ่มกระดูกที่พบมาก บริเวณก้นกบ ตาตุ่ม ข้อศอก และด้านข้างของเข่า รวมถึงใบหู ด้านหลังศีรษะ บริเวณปีกจมูกถ้าผู้ป่วยได้รับการใส่สายให้อาหารทางสายจมูกมานาน ๆ ซึ่งถ้าพบลักษณะสีผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีแดง ม่วง หรือดูมีลักษณะการอักเสบ เช่นกดเจ็บ หรือเปลี่ยนเป็นสีดำ บ่งบอกถึงว่าบริเวณนั้น มีการกดทับ จนเนื้อตายที่รุนแรง หากมีลักษณะดังกล่าวควรจะขอความปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือหากพบความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจจะเพิ่มการดูแลการพลิกตัวให้มากขึ้น ก็จะช่วยลดอุบัติการการเกิดแผลลงได้ครับ